- ประเภท : Drama / Romance
- ผู้กำกับ : วิจิตร คุณาวุฒิ
- บทประพันธ์ : สิ้นธรณี ของ ศรีรัตน์ สถาปนวัฒน์
- บทภาพยนตร์ :
- ผู้ถ่ายภาพ : วิเชียร วีระโชติ
- อำนวยการสร้าง : วิรัตน์ คูห์สุวรรณ
- บริษัทผู้สร้าง : หนังสือพิมพ์ปิยะมิตร
- วันที่เข้าฉาย : 26 กรกฎาคม 2498 ฉายที่โรงภาพยนตร์ศรีราชวงศ์
- ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม. ให้เสียงพากย์สด
เรื่องย่อ[]
เมฆ หนุ่มเมืองใต้หนีซมซานไปบนดอย หลังพลั้งมือฆ่าคนตายในบ่อน ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมฆก็พบว่าตัวเองอยู่ในกระท่อมของหญิงสาวชาวเขาเผ่าลีซอ หญิงสาวเล่าว่า บาบ่า หัวหน้าเผ่า กับเธอ นะหลี ลูกสาว ช่วยเมฆเอาไว้ เมื่ออาการของเมฆหายเป็นปรกติ กุ๊ก หมอผีประจำเผ่ายื่นคำขาดให้เมฆออกจากหมู่บ้านโดยอ้างว่า หากดึงดันรับคนใต้ไว้ในหมู่บ้านจะพบภัยพิบัติแต่บาบ่าเห็นว่าเมฆแม่นในทางปืน น่าจะช่วยปกป้องหมู่บ้านได้ จึงไม่เชื่อคำทำนายและรับเมฆเข้าหมู่บ้าน
คืนต่อมา หมู่บ้านลีซอถูกพวกยางกะเลอปล้นชาวเขาช่วยกันต่อสู้ เมฆล่อให้กุ๊กลงไปดักยิงที่เชิงเขาส่วนตัวเขาย้อนไปกระหน่ำยิงกุ๊กจนสิ้นลมหายใจ บาบ่าไว้ใจเมฆมากถึงขนาดยกนะหลีให้เป็นเมีย จนกระทั่งนะหลีตั้งครรภ์ เมฆขอไปเยี่ยมญาติที่ภาคใต้ พอเมฆคล้อยหลังไป พ่อค้าฝิ่นขบวนฮ่อก็มาขอรับฝิ่นกับบาบ่าและยืนยันว่าชำระเงินให้เมฆไปแล้ว ทุกคนจึงได้รับรู้ความชั่วร้ายของเมฆ ขบวนฝิ่นฮ่อแค้นใจบุกมาเผาหมู่บ้านลีซอพังพินาศ
ชาวเขาที่หลงเหลือชีวิตย้ายไปอยู่บนดอยอีกลูกหนึ่ง รวมทั้งบาบ่าและนะหลีซึ่งบัดนี้คลอดลูกเป็นผู้ชายชื่อว่า เลาเอ้อ นะหลีแต่งงานใหม่กับ เลาจิง หนุ่มชาวเผ่าเดียวกันที่รักนะหลีมานาน วันหนึ่ง เลาเอ้อพบชายคนหนึ่งกำลังจะจมน้ำจึงช่วยชีวิตไว้และพามาที่บ้านนะหลีเห็นหน้าก็จำได้ทันทีว่าคือเมฆ ซึ่งยังไม่เลิกสันดานชั่วพยายามปลุกปล้ำนะหลี นะหลีพยายามขัดขืนแต่ไม่สามารถสู้กำลังเมฆจึงคว้าลูกดอกอาบยาพิษแทงขาตัวเองตาย เมฆพาเลาเอ้อกระเสือกกระสนหนีลงดอย บาบ่าเลาจิงและคนอื่นๆ ตามเมฆไปและเกิดการยิงต่อสู้กันเมฆเผลอไปถูกลูกดอกอาบยาพิษ ร่างของเขาตกลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก โดยไม่มีใครช่วยทัน
นักแสดง[]
นักแสดง | รับบทเป็น |
---|---|
สวลี ผกาพันธุ์ | นะหลี |
ฤทธิ์ อินทนันท์ | เมฆ ชุมแสง |
มนูญ ชูเกษ | บาบ่า |
วิรัติ ภู่จีนาพันธ์ | เลาจิง |
กู้เกียรติ นิลประภา | กุ๊ก หมอผี |
ล้อต๊อก | เลาอ้าย |
ด.ช. สำรวย นิลประภา | เลาเอ้อ |
บุญส่ง บุญเรือง | หัวหน้าพวกฮ่อ |
ชิดเชื้อ | พ่อค้าฝิ่นเมืองใต้ |