- ชื่ออังกฤษ : Going Astray
- ประเภท : Drama / ขาว-ดำ
- ผู้กำกับ : ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
- บทประพันธ์ : ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
- บทภาพยนตร์ : ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
- ผู้ถ่ายภาพ : หลวงกลการเจนจิต (เภา วสุวัต)
- บันทึกเสียง : กระเศียร วสุวัต
- ดนตรีประกอบ : ขุนสนิทบรรเลงการ
- อำนวยการสร้าง : มานิต วสุวัต
- บริษัทผู้สร้าง : ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง
- วันที่เข้าฉาย : 1 เมษายน 2475 ฉายที่โรงภาพยนตร์พัฒนากร-สิงคโปร์-นาครเขษม
- ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์ขาว-ดำ บันทึกเสียงในฟิล์ม 35 มม.
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ "แสวง" หนุ่มกสิกรรมที่มีความสุขดีกับครอบครัว ทว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อแสวงต้องเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อเครื่องมือทางการเกษตร เขาได้พักอยู่กับ "จำนง" เพื่อนรักซึ่งอาศัยที่พระนคร และจำนงนี้เองที่แนะนำเขาให้รู้จักกับ "ฟองสวาท" สาวสวยที่เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงแสวงที่หลงเสน่ห์ของฟองสวาทจนหลงลืมถึงครอบครัว และใช้ชีวิตในเมืองหลวงร่วมกับฟองสวาทอย่างเปิดเผย แต่สิ่งนี้จะเป็นความสุขที่ยืนยาวของแสวงหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แสวง แต่งงานกับ ยอดมิ่ง มีบุตรหนึ่งคนชื่อ ยอดขวัญ ประกอบอาชีพกสิกรรม วันหนึ่งแสวงต้องเดินทางเข้าสู่พระนครเพื่อซื้อเครื่องมือมาใช้ในกิจการ โดยพักอยู่กับ จำนง เพื่อนรักซึ่งอาศัยที่พระนคร จำนงชักนำให้แสวงรู้จักกับ ฟองสวาท ซึ่งเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ทั่วเมือง แสวงหลงใหลฟองสวาทอย่างหัวปักหัวปำถึงขั้นละทิ้งอาชีพกสิกรรมมาทำงานในพระนคร และพาฟองสวาทมาอยู่ร่วมกันในบ้านอย่างเปิดเผย ฟองสวาทใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไม่นานนักแสวงก็หมดเงิน ฟองสวาทจึงตีตัวออกห่าง แสวงต้องออกจากงาน ต้องทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ทำให้เขาหวนนึกถึงยอดมิ่งที่เคยพึ่งพิง จึงกลับไปที่บ้านทุ่งเพื่อหาเมียรักซึ่งคอยเขาอยู่ที่นั่น
นักแสดง
นักแสดง | รับบทเป็น |
---|---|
แม่น ชลานุเคราะห์ | แสวง พืชผล |
ศรี | ยอดมิ่ง |
วาสนา ทองศรี | ฟองสวาท |
ชื่นใจ | |
ปลั่ง ชูเทศะ | จำนง สุขนคร |
ชลัช อัลบูรณ์ |
Image Gallery & วีดีโอ
เกร็ด
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์เสียงเรื่องแรกของไทย และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่มีเนื้อหาการนำเสนอล่อแหลมต่อศีลธรรม
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในระบบฟิล์ม 35 มม. ถ่ายทำเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2474 และมีความยาวจำนวน 12 ม้วน
- นายแม่น ชลานุเคราะห์ พระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่อมาได้เป็นโฆษกชื่อดังของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
- นอกจากเป็นภาพยนตร์เสียงในฟิล์มเรื่องแรกของไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีฉากเล้าโลมกอดจูบเรื่องแรกของไทยอีกด้วย จนเกิดเป็นคดีความฟ้องร้องซึ่งเป็นที่ฮือฮามากในยุคนั้น
- เพลงประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เพลงไทยเดิมโดยแต่งเพลงไว้ในเรื่อง 6 เพลงด้วยกัน อาทิ พัดชา, บัวบังใบ, ลาวเดินดง, กุหลาบหอม (ขึ้นพลับพลา), โยสะลัม และ เงี้ยว
- สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ได้แก่ โรงถ่ายสะพานขาวหรือโรงโถงกลางสนามในลานบ้านวสุวัต ย่านสะพานขาวติดถนนกรุงเกษม ภายในกั้นเป็น 3 ห้องบุฝาเซ็ลโลเท็กซ์เก็บเสียงสะท้อน ใช้เป็นฉากภายในเรื่องได้แก่ ฉากห้องกินข้าว, ห้องนอนของพระเอก และ ห้องรับแขกใหญ่ของเพื่อนพระเอก
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งวันปีใหม่ในสมัยนั้นคือวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475 ซึ่งพิเศษกว่าทุกปีเพราะเป็นปีที่รัฐบาลจัดงานเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงมากกว่าปรกติ ภาพยนตร์เสียงเรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้นำไปฉายถวายทอดพระเนตรในพระราชวังดุสิต
- ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้บริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุงได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกยุคภาพยนตร์เสียงอย่างสมบูรณ์แบบ