- ประเภท : Adventure / War
- ผู้กำกับ : เนรมิต (อำนวย กลัสนิมิ)
- บทประพันธ์ : รพีพร, แก้วฟ้า, เนรมิต, พรานบูรพ์, ส.อาสนจินดา
- บทภาพยนตร์ : รพีพร, แก้วฟ้า, เนรมิต, พรานบูรพ์, ส.อาสนจินดา
- ผู้ถ่ายภาพ : อนันต์ อินลออ
- ผู้สร้างฉาก : สะอาด คุปตลักษณ์
- ดำเนินงานสร้าง : วิเชียร สงวนไทย
- อำนวยการสร้าง : ลัดดา ประทีปสิงห์
- บริษัทผู้สร้าง : พงศ์ไทยภาพยนตร์
- จัดจำหน่าย : เสรีภาพยนตร์ (ปราการฟิล์ม)
- วันที่เข้าฉาย : 4 กุมภาพันธ์ 2513 ฉายที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์
- ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สี 16 มม. ให้เสียงพากย์สด
เรื่องย่อ[]
- ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ใน... ขุนทาส ผลงานจาก 5 ขุนพลแห่งโลกบันเทิง รพีพร/แก้วฟ้า/เนรมิต/พรานบูรพ์/ส.อาสนจินดา
- พบ 20 ดาราเด่น ทีมนักดาบ และศิษย์นาฏศิลป์คับคั่ง ขับร้องเพลงเอกในระบบ 35 ม.ม.โดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร, ผ่องศรี วรนุช, ศรีไพร ลูกราชบุรี
ย้อนไปเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงประกาศเลิกทาส แต่พระยามหินทร์ (ฑัต เอกฑัต) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองหนึ่งไม่ยอมทำตามพระประสงค์ ยังคงใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงทาสในเรือนอยู่ต่อไป ทาสในเรือนจึงคิดหลบโดยมีอีเครือ (เพชรา เชาวราษฎร์) ไต้เหลียน (เนาวรัตน์ วัชรา) เจ้าพัน (เพชร พิษณุ) เจ้ากิ่ง (ฤทธี นฤบาล) เป็นหัวหอกนำทาง แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำเมื่อกลุ่มทาสเหล่านั้นถูกไกวซง (วิชิต) หัวหน้าจีนฮ่อซึ่งเป็นพ่อไต้เหลียนบังคับเอาตัวไปเป็นทาสใช้แรงงานก่อสร้างค่ายจีนฮ่อและทำทารุณกรรมยิ่งกว่าตอนที่อยู่กับพระยามหินทร์เสียอีก อีเครือจึงหลบหนีออกมาเพื่อจะหาคนไปช่วยทาสเหล่านั้นและได้พบกับ ร.อ.ขุนรณชิต (มิตร ชัยบัญชา) ซึ่งกำลังออกตามหาทาสเหล่านั้นตามคำสั่งของเจ้าพระยาภูธร (อดุลย์ ดุลย์รัตน์) ขุนรณชิตจึงต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นทาสในค่ายจีนฮ่อและได้ร่วมมือกับเจ้าพัน เจ้ากิ่ง ช่วยเหลือทาสเหล่านั้นให้พ้นมือจีนฮ่อ
นักแสดง[]
- มิตร ชัยบัญชา – ร้อยเอกขุนรณชิต
- เพชรา เชาวราษฎร์ – อีเครือ
- เนาวรัตน์ วัชรา – ไต้เหลียน
- อดุลย์ ดุลยรัตน์ – เจ้าพระยาภูธร
- ทัต เอกทัต – พระยามหิทย์
- อดินันท์ สิงห์หิรัญ
- ฤทธี นฤบาล – เจ้ากิ่ง
- เพชร พิษณุ – ไอ้พัน
- ปริม ประภาพร – เกษร
- วิชิต ไวงาน – ไกวซง
- สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย – แม่คำ
- ล้อต๊อก
- สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม
- สมพล กงสุวรรณ
- ชุมพร เทพพิทักษ์
- บุษกร สาครรัตน์
Image Gallery & วีดีโอ[]
เกร็ด[]
- ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ฟิล์ม 16 มม. ให้เสียงพากย์สด และได้เพิ่มสีสันด้วยการใส่ฉากเพลง 35 มม. ประกอบเรื่องเอาไว้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมนิยมของหนังไทยหลายเรื่องในยุคก่อนที่จะกลายเป็นยุคฟิล์ม 35 มม. อย่างเต็มตัว โดยเวลาฉายในโรงภาพยนตร์ ตัวหนังซึ่งเป็นฟิล์ม 16 มม. จะฉายด้วยเครื่องฉาย 16 มม. โดยมีนักพากย์คอยพากย์เสียงสดๆ แต่เมื่อถึงฉากเพลงซึ่งมีเสียงเพลงในฟิล์ม จะสลับไปฉายด้วยเครื่องฉาย 35 มม. บางครั้งหนัง 16 มม. ที่มีฉากเพลง 35 มม. แบบนี้มักเรียกล้อเล่นกันในวงการว่า หนัง 51 มม. (16+35)